ลูกค้าบุคคล
ลูกค้าบุคคล
ย่อทั้งหมด
สินเชื่อแก่นักลงทุนเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Credit Balance: CB)
เป็นสินเชื่อที่ก่อรายได้ส่วนใหญ่ของรายได้ทั้งหมดของ TSFC โดยเป็นการให้กู้ยืมเงินเพื่อให้นักลงทุนนำไปซื้อหลักทรัพย์จดทะเบียน (Listed) หุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจดทะเบียน (PO/PP) และหุ้นของบริษัทที่ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์เพื่อจะนำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถกู้ยืมเงินจาก TSFC เพื่อนำไปชำระหนี้มาร์จิ้นของบริษัทหลักทรัพย์อื่นได้ (Refinancing) โดยนักลงทุนจะเป็นหนี้มาร์จิ้นในบัญชี CB ของ TSFC แทน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ TSFC กำหนด
นักลงทุนที่ประสงค์จะกู้ยืมเงินประเภทนี้จะต้องเปิดบัญชี CB กับ TSFC แต่จะต้องซื้อขายผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ที่ร่วมโครงการกับ TSFC เนื่องจาก TSFC เป็นเพียงผู้ให้กู้ยืมเท่านั้น ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์
เมื่อนักลงทุนได้รับอนุมัติวงเงินแล้ว จะต้องนำเงินหรือหลักทรัพย์ตามที่กำหนดมาฝากเข้าบัญชี CB เพื่อสร้างอำนาจซื้อก่อน อำนาจซื้อจะเพิ่ม-ลดตามจำนวนเงินและมูลค่าหลักทรัพย์ที่วาง เมื่อนักลงทุนซื้อหลักทรัพย์ที่อยู่ในรายชื่อที่ TSFC ประกาศกำหนด TSFC จะเป็นผู้ชำระค่าซื้อผ่านระบบของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ โดยตัดเงินในบัญชีที่เป็นของนักลงทุนก่อน ภาระหนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะจำนวนที่เกินกว่าเงินที่นักลงทุนวางไว้ในบัญชี
หลักทรัพย์ที่ซื้อจะเป็นหลักประกันในบัญชี CB ซึ่งจะถูกปรับมูลค่าตามราคาตลาด (mark to market) ทุกวัน และจะมีการติดตามดูแลพอร์ตของนักลงทุนแต่ละราย หากมูลค่าหลักประกันลดลงจนถึงอัตราที่ TSFC กำหนดจะมีการเรียกหลักประกันเพิ่มหรือบังคับขายหลักประกัน
IPO Financing
  • เป็นแหล่งเงินทุนที่สนับสนุนให้ลูกค้าที่มีความต้องการใช้เงินทุนในการจองซื้อหุ้น IPO โดยสามารถจองซื้อผ่านบัญชี Credit Balance ของ TSFC
  • เฉพาะลูกค้า Credit Balance ของ TSFC เท่านั้นที่สามารถใช้สินเชื่อประเภทนี้ได้
  • ต้องเป็นหุ้น IPO ที่ TSFC รับเป็นหลักประกันเท่านั้น
  • สามารถใช้ เงินสด/หุ้น วางเป็นหลักประกันสำหรับจองซื้อหุ้นได้
  • วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 50 ล้านบาท
  • ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 เดือน
สินเชื่อเพื่อการซื้อหุ้นของบริษัทที่เสนอขายแก่กรรมการ และพนักงานของบริษัท หรือบริษัทย่อย (Employee Stock Ownership Plan: ESOP)
เป็นการให้กู้ยืมแก่กรรมการและพนักงานเพื่อซื้อหุ้นของบริษัทที่เสนอขายแก่กรรมการและพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อย ชำระคืนโดยการผ่อนส่งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นรายงวด หลักทรัพย์ที่ผู้กู้ซื้อ จะเป็นหลักประกันการกู้ยืม ทั้งนี้ TSFC จะติดต่อกับบริษัทนายจ้างที่มีการออกโครงการ ESOP เพื่อนำเสนอบริการสินเชื่อ โดยพนักงานและกรรมการที่สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการสินเชื่อจาก TSFC ได้โดยผ่านบริษัทนายจ้างของตน
สินเชื่อเพื่อการลงทุนหุ้นนายจ้าง (Employee Investment Plan: EIP Financing)
ความหมายของการให้สินเชื่อ
เป็นโครงการส่งเสริมให้ลูกจ้างลงทุนในหุ้นของนายจ้าง เป็นรายงวดอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน โดยใช้หลักการ Dollar Cost Average (DCA) โดย TSFC จะให้กู้ยืมเงินแก่ลูกจ้าง เพื่อซื้อหุ้นของนายจ้างในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนำหุ้นที่ซื้อได้มาจำนำเป็นหลักประกันกับ TSFC
เงื่อนไขการกู้ยืม โดยใช้ EIP Financing
  1. ผู้กู้ต้องเป็นลูกจ้างที่มีรายได้ประจำของนายจ้างที่มีหุ้นซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  2. นายจ้างต้องมีการลงนามข้อตกลงกับ TSFC ในการหักเงินเดือนของลูกจ้างผู้กู้เงิน และรวบรวมนำส่งให้กับ TSFC เป็นประจำทุกเดือนตลอดช่วงลงทุนหลักทรัพย์และช่วงการผ่อนชำระหนี้
  3. มีการเบิกถอนเงินกู้ทุกเดือน เพื่อซื้อหุ้นของนายจ้างในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลอดช่วงลงทุนหลักทรัพย์ โดย TSFC จะชำระเงินค่าซื้อหุ้นให้กับผู้ขายโดยตรง
  4. วงเงินกู้สูงสุดไม่ทำให้ผ่อนหนี้เกินกว่าร้อยละ 30 ของเงินเดือน
  5. เป็นสินเชื่อระยะยาว ไม่เกิน 10 ปี
ประโยชน์ของ EIP Financing
  1. เป็นแหล่งเงินทุนให้กับลูกจ้างที่มีเงินทุนไม่เพียงพอที่จะลงทุนในหุ้นของนายจ้าง
  2. เป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ต้องกังวลต่อความผันผวนของราคาหุ้นและจังหวะเวลาในการลงทุน
  3. ช่วยสนับสนุนนายจ้างในการรักษาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพไว้กับองค์กรในระยะยาว (Long-Term Incentives)
  4. สนับสนุนให้ลูกจ้างมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกิจการที่ตนเองทำงานอยู่
  5. เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบจากการลงทุน
  6. สร้างวินัยในการลงทุน
  7. สามารถใช้ร่วมกับโครงการสะสมหุ้นสำหรับพนักงานบริษัทจดทะเบียน Employee Joint Investment Program (EJIP) ของนายจ้างได้